ขุดลึกถึงรากถึงโคนต้นกำเนิดของ เก้าอี้

ขุดลึกถึงรากถึงโคนต้นกำเนิดของ เก้าอี้

เก้าอี้ มีการถูกพูดถึงครั้งแรกในยุคอียิปต์โบราณก่อนที่จะกระจายเป็นวงกว้างในแถบตะวันตกตั้งแต่กรีกและโรมันออกไป เก้าอี้เป็นที่ใช้กันทั่วไปในประเทศจีนในช่วงศตวรรษที่สิบสอง และถูกใช้ต่อมาโดยอาณาจักรแอชเท็กที่บริเวณแถบกึ่งทะเลทรายซาฮาร่าของแอฟริกา ก่อนหน้านั้นไม่มีการใช้เก้าอี้จนกระทั่งชาวยุโรปเป็นผู้นำเข้ามา

ตัวอย่างของเก้าอี้ที่ยังหลงเหลือจากสมัยยุคกลางล้วนเป็นเก้าอี้ที่มีการแกะสลักดีไซน์หรูหราพ่วงด้วยสัญลักษณ์ของเกียรติยศและราชวงศ์ จนกระทั่งยุคเรเนซองส์ที่เก้าอี้เป็นที่แพร่หลายและใช้งานกันทั่วไป การออกแบบของเก้าอี้นั้นสะท้อนให้เห็นถึงแฟชั่นเครื่องแต่งกาย และ การวิวัฒนาการของเฟอร์นิเจอร์ในแต่ละยุคสมัย การออกแบบที่โดดเด่นมาจากประเทศฝรั่งเศสและอังกฤษ ในสมัยใหม่ การออกแบบ และ วัสดุที่ใช้ทำเก้าอี้มีเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

เก้าอี้ในยุคอียิปต์โบราณ

เก้าอี้

มีการกล่าวถึงในหลากหลายรูปแบบที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นแบบไม่มีพนักพิง(สตูล) ม้านั่ง เก้าอี้ และบัลลังก์ ทั้งในรูปแบบงานศิลปะ และ หลักฐานที่ยังหลงเหลือ และถูกเก็บรักษาไว้ด้วยสุสานที่มีความชื้นต่ำ นักโบราณคดีค้นพบหลักฐานการใช้เก้าอี้ของราชวงศ์สมัยที่ 2 ของอียิปต์ในช่วงต้นของยุคจักรพรรดิ และ ตัวอย่างดังกล่าวคือรูปบูชาแกะสลักของฟาโรห์นิเนทเจอร์ (ราว ๆ 2,785 ถึง 2742 ปีก่อนคริสตศักราช) ซึ่งปัจจุบันถูกจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นการจำลองภาพกษัตริย์บนบัลลังก์นั่นเอง

เก้าอี้ของชาวอียิปต์โบราณถูกหุ้มด้วยผ้าและหนัง ทำจากไม้แกะสลัก ลักษณะค่อนข้างเตี้ยกว่าเก้าอี้ในยุคปัจจุบันมาก โดยในบางการค้นพบ เก้าอี้ของชาวโบราณอาจมีความสูงเพียง 25 เซนติเมตร ในแบบที่มีความหรูหราขึ้นมา จะใช้วัสดุที่มีมูลค่าสูงขึ้นเช่นเครื่องปั้นดินเผา โลหะและหินที่มีค่า กระจกสีต่างๆ ไม้เนื้อแข็งสีดำเช่นบัลลังก์ของราชินีเฮเทเฟเรสที่ 1 หรือบัลลังก์ของจริงของฟาโรห์ตุตันคาเมนที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถและทักษะด้านศิลปะของคนในยุคโบราณ เก้าอี้เหล่านี้มักถูกนำเสนอออกมาให้เป็นตัวแทนของขาสัตว์ หรือในบางครั้งก็เป็นขาทาส แต่ในกรณีหลังพบได้ไม่บ่อยนัด

เก้าอี้ในอาณาจักรเมโสโปเตเมีย

เก้าอี้

ในอีรัคสมัยโบราณ อนุสาวรีย์ที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองโบราณ นิเนเวห์ เผยให้เห็นเก้าอี้ที่ไม่มีพนักพิง แต่ มีลวดลายแกะสลักสวยงามที่ขา รูปร่างเหมือนกรงเล็บท้าสิงโตที่บริเวณปลาย ส่วนเก้าอี้ตัวอื่นๆก็มีภาพลักษณ์ของสัตว์ที่ต่างกันไป

เก้าอี้ในสมัยของกรีก-โรมัน

เก้าอี้แบบ Klismos เป็นเก้าอี้ที่มีพนักพิงโค้งและขาเก้าอี้เว้าออกด้านนอก ตามภาพสลักของ Xanthippus ที่กรุงเอเธนส์ในช่วง 430 ถึง 420 ก่อนคริสตศักราช

เก้าอี้

ส่วนเก้าอี้กรีกที่เก่าแก่ที่สุด พบว่ามีความเก่าแก่มากถึง 6 หรือ 7 ศตวรรษก่อนคริสตศักราช ในภาพบนพื้นผนังของวิหารพาร์เธนอน ปรากฏภาพเทพเจ้าซุสบนเก้าอี้ที่มีขาขนาดใหญ่ประดับด้วยปีกของสฟิงซ์และเท้าของอสูร เอกลักษณ์ของเก้าอี้โรมันจะเป็นหินอ่อนตกแต่งด้วยสฟิงซ์เช่นกัน เก้าอี้ขาโค้งในสมัยนั้น มีความคล้ายคลึงกับเก้าอี้พับในสมัยใหม่เป็นอย่างมาก เพียงแต่ได้รับการประดับประดาอย่างสวยงาม เก้าอี้ที่โด่งดังที่สุดหากพูดถึงเก้าอี้ที่มีความเก่าแก่คือเก้าอี้ที่มีชื่อเสียงของเซนท์ปีเตอร์ที่วิหารเซนท์ปีเตอร์ในกรุงโรม ส่วนที่เป็นไม้ส่วนใหญ่ถูกกัดกร่อนเสียหาย แต่ดูออกได้ว่าเป็นงานของจักรวรรดิไบเซนไทน์ในศตวรรษที่ 6 หรือหากจะพูดถึงเก้าอี้โบราณก็คือบัลลังก์เกสตาทอเรีย มีการสลักงาช้างเป็นสัญลักษณ์ของเฮอร์คิวลิส ส่วนเก้าอี้เก่าที่ทำจากไม้โอ๊คอื่นๆ ก็รอดมาถึงปัจจุบันเช่นกัน โดยนักโฐราณคดี เกรโกโรวิอุสกล่าวไว้ว่ามันเป็นเก้าอี้ไม้อาคาเชีย ที่เป็นเก้าอี้แบบขาโค้งของนักบุญปูเดนส์แห่งอาณาจักรโรม แต่อย่างไรก็ตาม ยังขาดหลักฐานอีกมาก และไม่โด่งดังเทียบเท่ากับเก้าอี้ทองแดงของโลเรนโวแบรนินี ซึ่งมีล็อคสามชั้น และกล่าวว่ามีการจัดแสดงเพียงหนึ่งครั้งในหนึ่งศตวรรษเท่านั้น สำหรับชาวไบเซนไทน์ เป็นเช่นเดียวกับชาวกรีกและโรม ได้รับอิทธิพลด้านเก้าอี้ที่มีขาโค้ง เพิ่มเติมด้วยหัวสิงโต และสัญลักษณ์ปีกแห่งชัยชนะพร้อมกับที่วางแขนรูปร่างเหมือนโลมา และยังมีพนักพิงโค้งอีกเช่นเดียวกัน ซึ่งภายหลังการออกแบบในลักษณะนี้ ถูกนำมาใช้อีกครั้งในลักษณะกึ่งคลาสสิก ในศตวรรษที่ 18

เก้าอี้เม็กซิโก

หนึ่งในเก้าอี้ที่เก่าแก่ที่สุดในเม็กซิโก เรียกว่า icpalli ซึ่งถูกพูดถึงในหนังสือ The Daily Life of the Aztecs (ชีวิตประจำวันของชาวแอซเทค) หน้าที่ 122 ของ ฌัค ซุสแตล  โดยกล่าวไว้ว่า icpalli สามารถพบได้ที่จิตรกรรมฝาผนังของชาวแอซเทคใน เขต Tlateloco  เมืองเม็กซิโกซิตี้ icpalli ยังถูกบันทึกไว้ในภาคผนวกของบันทึกอันทรงเกียรติ Telleriano-Remensis โดยมีการพูดถึงจักรพรรดิที่นั่งอยู่บน icpalli

เก้าอี้ในยุคกลาง

เก้าอี้

เก้าอี้ของ Maximian ในวิหารราเวนนานั้น เชื่อกันว่าถูกส่งต่อมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 6 ทำด้วยหินอ่อน รูปร่างกลม พร้อมพนักพิงสูง และถูกแกะสลักอย่างประณีตเป็นรูปลักษณ์ของนักบุญและเรื่องราวจากคัมภีร์ไบเบิล ในส่วนพื้นที่เล็กๆถูกแต่งแต้มด้วยลายแกะสลักสัตว์ต่างๆ นกหลายชนิด ดอกไม้ และประดับอย่างหรูหรา หรือจะเป็นเก้าอี้ของนักบุญออกัสตินที่เชื่อว่าน่าจะถูกใช้งานในช่วงยุคศตวรรษที่ 13 ส่วนสำหรับพระมหากษัตริย์ในยุคหลังจากนั้น นั่งบัลลังก์ที่ทำจากไม้โอ๊ค ห่อหุ้มด้วยปูนสีทองซึ่งแทบไม่หลงเหลือแล้ว

อีกหนึ่งเก้าอี้ที่เก่าแก่คือ “เก้าอี้ของเดโกเบิร์ต” ภายในคณะ médailles ที่หอสมุดแห่งชาติฝรั่งเศส เป็นเก้าอี้ที่ถูกหลอมขึ้นด้วยทองแดง เหลาด้วยมีดแกะลายและประดับด้วยทองในบางส่วน เป็นหนึ่งในเก้าอี้ที่มีลักษณะขาโค้งและรองรับด้วยเท้าสัตว์ ในส่วนของที่นั่ง ซึ่งคาดว่าเป็นหนังสัตว์ หายไปแล้ว มีการกล่าวถึงนักบวชชูเกอร์แห่งวิหารเซนท์เดนีในศตวรรษที่ 12 ว่าเป็นผู้เพิ่มพนักพิงและที่วางแขนเข้าไป อายุของเก้าอี้ของเดโกเบิร์ตยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ แต่นักทฤษฎีชาวฝรั่งเศส “เออแฌน วียอแล-เลอ-ดุก” คาดว่าเก้าอี้นี้น่าจะอยู่ในช่วงยุคราชวงศ์เมรอแว็งเฌียงตอนต้น

เก้าอี้ในยุคศตวรรษที่ 20 และเก้าอี้สมัยใหม่

ศตวรรษที่ 20 มีการพัฒนาของเทคโนโลยีในโครงสร้างเก้าอี้เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้โลหะที่สามารถพับเก็บได้ เก้าอี้ที่มีขาเป็นโลหะ เก้าอี้นอน เก้าอี้พลาสติก เก้าอี้เพื่อสุขภาพ เก้าอี้พกพา เก้าอี้เป่าลม เก้าอี้ลามิเนต เก้าอี้รูปไข่ ไปจนถึง เก้าอี้นวด นอกจากนี้ยังมีการออกแบบเก้าอี้ที่มีความสอดคล้องกับสถาปัตยกรรมของอาคารแต่ละแห่ง อี ก ด้ว ย

Credit: fishingmixs.com commarinetraffic.com healthy-fits.com ankarastore.com goorucamping.com mixmobilegames.com nheetiewstours.com goldengooseshoeser.com aaviagar.com takipcisanati.com